วันอังคารที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2552

อันดับที่ 10 เกาะตะปู



เกาะตะปู ตั้งอยู่ในบริเวณทะเลด้านนอก ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา คิดเป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จากที่ทำการอุทยานฯตามลำคลองเกาะปันหยีจังหวัดพังงา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย อยู่ทางด้านเหนือในเวิ้งอ่าวของเกาะเขาพิงกัน เกาะตะปู มีลักษณะเป็นเกาะเดี่ยว รูปร่างคล้ายตะปู มีศัพท์เฉพาะทางธรณีวิทยาว่า เกาะหินโด่ง (Stack) การชมเกาะตะปูต้องชมในระยะไกลจากเรือ หรือจากสันดอนของเกาะเขาพิงกัน ไม่สามารถขึ้นไปบนเกาะได้

อันดับที่ 9 เกาะเต่า


เกาะเต่า มีพื้นที่อยู่ในฝั่งของทะเลอ่าวไทย และอยู่ในเขตการปกครองของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลักษณะของ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย เกาะเต่า จะมีลักษณะที่โค้งเว้า เหมือนกับเมล็ดถั่ว ซึ่งเกาะเต่า จะตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ เกาะพงัน จ.สุราษฏร์ธานี ระยะทางจากเกาะพงันถึงเกาะเต่า ประมาณสี่สิบห้ากิโลเมตร นอกจากนี้ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ในบริเวณใกล้เคียงกับเกาะเต่ายังมีเกาะนางยวนซึ่ง เป็นเกาะเล็กๆ ด้านตะวันตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะเต่า มีสันทรายเชื่อมต่อกับเกาะเต่าในลักษณะเหมือนทะเลแหวก เป็นแหล่งดำน้ำชมปะการังอีกแห่งหนึ่ง

อันดับที่ 8 อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์


อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอดอยหล่อ อำเภอจอมทองและอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ประกอบไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ในวันที 13 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2521 คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ ได้ประกาศให้ดอยอินทนนท์เป็นอุทยานแห่งชาติ

อันดับ 7 หัวหิน


หัวหิน เป็นอำเภอที่ทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย เดิมมีชื่อว่า "บ้านสมอเรียง" หรือ "บ้านแหลมหิน" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) ได้ทรงสร้างวังไกลกังวลเพื่อประทับพักผ่อนในฤดูร้อน และปัจจุบันวังไกลกังวลนั้นเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบัน

อันดับ 6 พัทยา


พัทยา หรือ เมืองพัทยา เป็นเขตปกครองพิเศษเขตหนึ่งที่ตั้งตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ เมืองพัทยา ฉบับ วันที่ 29 พฤจิกายน พ.ศ. 2521 (เทียบเท่าเทศบาลนคร) ในเขตจังหวัดชลบุรี จัดเป็น สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย เมืองท่องเที่ยวนานาชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลกโดยเฉพาะหาดทรายที่ ทอดยาวไปตามแนวชายฝั่งทะเล จัดได้ว่า
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย มีความสวยงามอีกแห่งของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ประมาณ 140 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนฝั่งทะเลทางทิศตะวันออกของอ่าวไทย ซึ่งพัทยาแบ่งเป็น 4 ส่วนได้แก่ พัทยาเหนือ พัทยากลาง พัทยาใต้ และหาดจอมเทียน

อันดับที่ 5 เกาะ ช้าง


เกาะ ช้าง เป็น สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่เกาะที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศไทยรองจากเกาะภูเก็ต เกาะช้างมีโรงแรมและรีสอร์ตมากมาย ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำ และด้วยภูมิประเทศที่มีป่าเขาอยู่กลางเกาะ นักท่องเที่ยวจึงสามารถท่องเที่ยวแบบเดินป่า ขี่ช้างก็ได้เช่นกัน

อันดับ 4 เกาะสมุย


เกาะสมุย เดิมเกาะสมุยมีชื่อเสียงในฐานะเป็นแหล่งปลูกมะพร้าว ปัจจุบันเป็นสถานที่พักผ่อนตากอากาศที่ชาวต่างประเทศนิยมเดินทางมาท่อง เที่ยว มีร้านค้า โรงแรม และสถานบันเทิงต่าง ๆ มากมาย หาดที่เป็นที่เชิดหน้าชูตาของคนเกาะสมุย คือ หาดเฉวง บริเวณชายหาดยาวประมาณ 7 กิโลเมตร ถ้าได้ลงมือเดินตั้งแต่ต้นหาดจนกระทั่งถึงปลายหาดจะใช้เวลาประมาณถึง 2 ชั่วโมง เพราะการเดินบนผืนทรายไม่เหมือนการเดินบนพื้นดินปรกติ หาดที่มีความสวยงามเป็นอันดับรองลงมา คือ หาดละไม หาดเชิงมนต์ แหลมโจรคร่ำ หาดท้องยาง หาดหน้าทอน หาดพังกา และหาดตลิ่งงาม นอกจากธรรมชาติที่สวยงามของอำเภอเกาะสมุยแล้ว ยังมีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก คือ "สปา" หรือการดูแลรักษาสุขภาพโดยการใช้น้ำบำบัด เช่น การอาบ-การแช่น้ำแร่หรือน้ำร้อน

อันดับ 3 หมู่เกาะพีพี


อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลอันดามันด้านทิศตะวันตกของภาคใต้ สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย เป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่มีลักษณะสวยงามตามธรรมชาติ รอบ ๆ เกาะมีปะการัง กัลปังหา ทิวทัศน์ใต้ทะเลที่งดงาม และเอกลักษณ์ทางธรรมชาติคือภูเขาหินปูนที่มีหน้าผาเป็นชั้น ๆ ถ้ำที่สวยงาม ตลอดจนชายหาดยาวสะอาด สุสานหอย 40 ล้านปี ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งหมดประมาณ 389.96 ตารางกิโลเมตร หรือ 243,725 ไร่

อันดับที่ 2 หมู่เกาะสิมิลัน


อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ได้รับการยกย่องว่าเป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงามทั้งบนบกและใต้น้ำ มีปะการังที่สวยงามหลายชนิด สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก สามารถพบปลาที่หายาก เช่น วาฬ โลมา ปลาไหลมอเร่(moray) ช่วงเดือนที่น่าเที่ยวมากที่สุด คือช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึง เดือนเมษายน นอกจากนั้นจะประกาศปิดเกาะ

อันดับ 1 หาดป่าตอง


หาดป่าตอง อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 15 กิโลเมตร นับว่าเป็น สถาน ที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย หาดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต เป็นชายหาด สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ร้านดำน้ำ ร้านขายอุปกรณ์กีฬาทางน้ำ และอื่น ๆ อีกมากมาย ไว้คอยบริการแก่นักท่องเที่ยว ด้วยชายหาดที่มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ป่าตองจึงเป็น สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่มีผู้นิยมมาเยือนมากที่สุด
หาด ป่าตองถูกถล่มโดยคลื่นสึนามิในเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547ปัจจุบัน หาดป่าตองเป็นหนึ่งในชายหาดสำคัญที่ได้รับการติดตั้งระบบเตือนภัยสึนามิ มีการซักซ้อมการอพยพและการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวอยู่อย่างสม่ำเสมอ เป็นระยะๆ


ที่มา : http://www.tlcthai.com/webboard/view_topic.php?table_id=1&cate_id=66&post_id=80394

ปี 2009 ที่จะถึงนี้จะมีรถมากมายมาออกตลาด แล้วอะไรล่ะที่แพงที่สุด??

นี่คือ 10 อันดับของรถที่แพงที่สุดในโลกที่สามารถวิ่งบนท้องถนนได้อย่างไม่ผิดกฎหมาย

อันดับ 10 Maybach 62 ราคา $390,000


นี่ คือสุดยอดยนตรกรรมจากเยอรมัน โดย Daimler Chrysler ได้นำมายบัคที่เคยโลดแล่นในอดีตกลับมาอีกครั้งเพื่อต่อกรกับ Rolls Royce ค่ายรถหรูจากอังกฤษ maybach 62 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 5.5 ลิตรtwin-turbo V12 พร้อมกับม้า 612 ตัว โดยรถรุ่นนี้มีขายในเมืองไทย ราคาก็ไม่เท่าไหร่ 100 ล้านบาทนิดๆเท่านั้น
ในหลวงทรงใช้เป็นรถยนต์พระที่นั่งคันปัจจุบัน

อันดับ 9 Porsche Carrera GT ราคา $420,000


นี่ คือสุดยอดเจ้าชายกบ เป็นรถที่ดีที่สุดและแพงที่สุดของ porsche ซุปเปอร์คาร์จากเยอรมันคันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 5.7 ลิตร V10 612 แรงม้า มันใช้เวลาวิ่งจาก 0-100 km/hr เพียง 3.5 วินาทีเท่านั้น

อันดับ 8 Mercedes-Benz SLR McLaren ราคา $450,000



นี่ คือรถที่แพงที่สุดของค่ายดาวสามแฉกจากเยอรมัน (อีกแล้ว) โดย mercedes ได้ร่วมกันพัฒนากับ mclaren ผลิตสุดยอดซุปเปอร์คาร์คันนี้ขึ้นมา SLR มันใช้เครื่องยนต์ 5.4 ลิตร V8 ผลิตม้าได้ 626 ตัว ใช้เวลาเพียง 3.6 วินาทีในการเร่งจาก 0-100 km/hr

อันดับ 7 Koenigsegg CCX ราคา $520,000




การ เปิดประตูสุดแปลกแต่สวยงามของซุปเปอร์คาร์จากสวีเดนคันนี้ ทำให้หลายๆคนหลงรักทันทีที่เห็นมัน CCX มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 4.7 ลิตร V8 และมีแรงม้ามากถึง 806 แรงม้าเลยทีเดียวเพียงแค่ 3.2 วินาทีคุณก็จะทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วจาก 0-100 km/hr ทันที

อันดับ 6 Saleen S7 Twin Turbo ราคา $585,000


รถยนต์สัญชาติอเมริกันคันนี้ ใช้เครื่องยนต์ V8 750 แรงม้า วิ่งจาก 0-100 km/hr ใช้เวลา 3.2 วินาที

อันดับ 5 SSC Ultimate Aero ราคา $620,000



ถ้า คุณคิดว่าบูกัตติ เวรอน เป็นรถที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกละก็ คุณคิดผิด เพราะสุดยอดซุปเปอร์คาร์จากอเมริกาคันนี้แหละที่เป็นรถยนต์ที่วิ่งได้เร็วที่สุดในโลกด้วยความเร็ว 256.15 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 412.23 กิโลเมตรต่อชั่วโมงShelby Supercars (SSC) คันนี้ใช้เครื่องยนต์ 6.35 ลิตร twin-turbo V8 โดยมีแรงม้ามากถึง 1,183 แรงม้า

อันดับ 4 Ferrari Enzo ราคา $640,000



ค่าย ม้าลำพองจากอิตาลีส่งเข้าประกวด นี่คือสุดยอดซุปเปอร์คาร์จากเฟอร์รารี่ที่สุดแพง และเป็นยี่ห้อที่หลายคนใฝ่ฝันมาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 เทคโนโลยีจาก F1 มีอยู่เต็มเปี่ยมในรถคันนี้ ทะยานจาก 0-100 km/hr 3.12 วินาทีถึงแม้จะขายมานาน แต่ enzo ก็ยังเป็นที่ต้องการของเศรษฐีทั่วโลก และมีเงินอย่างเดียวซื้อ enzo ไม่ได้นะครับ ต้องได้รับบัตรเชิญจาก ferrari เท่านั้น กล่าวคือต้องเป็นลูกค้าคนสำคัญนั่นเอง

อันดับ 3 Lamborghini Reventon ราคา $1,300,000



กระทิง สัญชาติอิตาลีคันนี้ เป็นรถที่แพงที่สุดของ lamborghini ตั้งแต่เคยผลิตมา หลายคนหลงรักทันทีที่เห็นมัน บนโลกใบนี้มีขายเพียง 20 คันเท่านั้น เสียใจด้วยสำหรับคนไทย เพราะคันนี้ไม่มีเข้ามาในไทย Reventon มาพร้อมกับเครื่องยนต์ V12 กับ 650 แรงม้า ใช้เวลา 3.4 วินาทีในการเร่งจาก 0-100 km/hr

อันดับ 2 Bugatti Veyron $1,400,000




ครองแชมป์มานาน แต่ปีนี้หล่นมาเป็นอันดับที่สอง นี่คือสุดยอดยนตรกรรมสัญชาติฝรั่งเศสแต่พัฒนาโดยบริษัทแม่คือ volkswagen จากเยอรมัน ถึงแม้จะแพงสุดกู่แต่ว่ากันว่า volkswagen
ขาดทุน 2 ล้านยูโรต่อการขาย veyron 1 คัน เนื่องจากใช้งบประมาณที่สูงมากในการพัฒนานั่นเอง veyron ไม่ได้มีเครื่องยนต์ 10 สูบ หรือ 12 สูบ แต่มันมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 16 สูบ ที่พัฒนาโดย volkswagen ใช้รหัส W16 มีแรงม้า 987 แรงม้า ใช้เวลา เร่งจาก 0-100 km/hr เพียงแค่ 2.46 วินาทีเท่านั้นและมีความเร็วสูงสุดที่ 253 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 407.16 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

อันดับที่ 1 เป็นอะไรไม่ได้นอกจาก “Aston Martin One 77” ด้วยราคาสูงถึง $1,500,000!!!


หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูกับรถยี่ห้อนี้ แต่ถ้าบอกว่ามันคือพาหนะของ James Bond ทั้ง 3 ภาคที่ผ่านมาละก็ ทุกคนคงร้องอ๋อเพราะ นี่คือสุดยอดซุปเปอร์คาร์สัญชาติอังกฤษ ที่ได้รับคำชมว่า เป็นรถที่สวยที่สุดในโลก One-77 จะถูกผลิตขึ้นมาเพียง 77 คันเท่านั้นตามชื่อรุ่น ใช้เครื่องยนต์ V12 ขนาด 6.0 ลิตร มีแรงม้าทั้งสิ้น 700 แรงม้า ความเร็วสูงสุงมากกว่า 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยมีอัตราเร่ง 0-100 km/hr ที่ 3.5 วินาที

 
 
ที่มา : http://content.tarad.com/?p=3010

วารสาร ลีฟไลฟ์ นิตยสาร ด้าน วิทยาศาสตร์ และ วิทยาการ จัดอันดับ สุดยอด 10 สัตว์ ที่ถือว่า อันตราย ที่สุดสำหรับ มนุษย์ เป็นครั้งแรก ประเมินจาก ประสบการณ์ ที่ ชาวต่างประเทศ เขาเจอ สัตว์ อันตราย เหล่านี้กันมานักต่อนักแล้ว บางตัว คุ้นหน้าคุ้นตา กันดี หรืออาจเหมือนเป็น สัตว์ ที่ใกล้ตัวเรา แต่เขาบอกว่า อันตราย จริงๆ ถ้าไปยุ่งกับมัน

เมื่อเร็วๆ นี้ ทางวารสาร "ลีฟไลฟ์" นิตยสารด้านวิทยาศาสตร์และวิทยาการ เขาได้จัดอันดับ 10 สัตว์ที่ถือว่าอันตรายที่สุดสำหรับมนุษย์เป็นครั้งแรก ประเมินจากประสบการณ์ที่ชาวต่างประเทศเขาเจอกันมานักต่อนักแล้ว บางตัวคุ้นหน้าคุ้นตากันดี หรืออาจเหมือนเป็นสัตว์ที่ใกล้ตัวเรา แต่เขาบอกว่าอันตรายจริงๆ ถ้าไปยุ่งกับมัน
และนี่ก็คือ 10 อันดับยอดสัตว์อันตรายสำหรับมนุษย์ จากการบอกเล่าของ "ลีฟไลฟ์"

1. ยุง (ร้ายกว่าเสือ)


บางชนิดก็แค่กัดเจ็บๆ ครับ แต่บางชนิดที่แหละร้ายชนิดร้ายกาจต้องพยายามเลี่ยงเอาไว้ เพราะมันสามารถเป็นพาหะนำโรคร้ายสู่มนุษย์ ซึ่งปีหนึ่งๆ พบว่า คนเราตายเพราะยุงเนี่ยได้คร่าประชากรโลกกว่าสองล้านคนทีเดียว

2. กบพิษ"พันธุ์ดารต์"




เจ้ากบที่เห็นเนี่ยไม่เหมาะสำหรับไปจูบมันแน่ๆ ก็เพราะว่า มันสามารถผลิตสารพิษร้ายแรง เพื่อใช้ป้องกันตัวเองจากการถูกคุกคามของสัตว์อื่นๆ เขาบอกว่ากบประเภทนี้แค่ตัวเดียวมีพิษขนาดทำให้คนตายได้ถึง 10 คน!

3. งูเห่าเอเชีย



แม้ว่าดูเหมือนจะไม่ค่อยมีพิษ แต่จริงๆ แล้วมันเนี่ยแหละอันตรายกว่างูสายพันธุอื่น โดยสถิติคนถูกงูกัดตาย 5 หมื่นคนต่อปี ก็ถือว่าอันตรายสำหรับมนุษย์แล้ว

4. แมงกระพรุนออสเตรเลีย


พิษของมันถือว่าอันตรายสุดๆ ด้วยหนวดที่มีเป็นจำนวนมาก ยาวกว่า 15 ฟุต เชื่อไหมว่าหนวดแต่ละเส้นสามารถคร่ามนุษย์ได้กว่า 60 คน

5. ฉลามขาว


อันตรายสุดๆ ถ้าเผชิญหน้ากับมัน คุณมีสิทธิจะโดนเขี้ยวฉลามที่ว่ากันว่ามีถึง 3 พันซี่ขย้ำจนเหลือแต่กระดูก หากไปเที่ยวว่ายน้ำในทะเลแล้วเปิดโอกาสให้มันได้กลิ่นเลือดละก้อ

6. สิงโตแอฟริกา


ถือว่าเป็นสุดยอดของนักล่าของสัตว์บก เพราะทั้งใหญ่โต ว่องไว ฟันก็คมกริบ ว่ากันว่าแค่แมวตัวใหญ่ก็เกือบจะเป็นนักล่าที่สมบูรณ์แบบได้เหมือนสิงโตเลย ทีเดียว

7. จระเข้น้ำเค็ม


อันตรายแน่ๆ ถ้าไปแช่น้ำในทะเลสาปอยู่นานๆ เพราะมันชอบซ่อนอยู่ในหนองน้ำ คอยเหยื่อที่ผ่านมาก่อนจะตะปบ ลากลงน้ำ ก่อนจะขย้ำคุณ จนใครก็จำสภาพไม่ได้ กลายเป็นศพเท่านั้นเอง

8. ช้างแอฟริกาดัมโบ้



แม้ใครจะคิดว่าช้าง เป็นมิตรกับมนุษย์ก็ตาม แต่เจ้าพันธ์ดัมโบ้ นี้ เขาว่ามันดุร้ายอันตรายใช่ย่อย เพราะปีหนึ่งมีคนตายเพราะเจ้าช้างพันธุ์นี้กว่า 500 คนทั่วโลก เพราะน้ำหนักมันถึง 16,000 ปอนด์ เรียกว่ามันเป็นสัตว์หนักที่สุดที่ทับมนุษย์

9. หมีขั้วโลก


แน่ละว่าจริงๆ แล้วมันอาจดูน่ารัก(เหมือนหมีแพนด้า?)ถ้าอยู่ในสวนสัตว์ แต่ในป่าหรือในขั้วโลก บ้านของมันแล้ว มันจะกินลูกแมวน้ำเป็นอาหาร และถ้าสนุกขึ้นคิดจะเล่นกันลูกแมวน้ำแล้ว ถือว่าอันตรายสุดๆ เพราะมันสามารถพุ่งเข้าชนเรา ก่อนจะใช้อุ้งเท้าตบ

10. วัวพันธุ์แอฟริกา


ถ้ามันเจอผู้รุกรานก่อน ก็จะพุ่งจะชาร์จก่อนทันที เอาแค่ว่ามันมีน้ำหนักตัว 1,500 ปอนด์ และมีเขาแหลม 1 คู่ถ้าเจอแค่ตัวเดียวอาจเคราะห์ดีรอดชีวิตได้ แต่ถ้าโชคร้ายคือ มันกรูกันมาเป็นฝูงแล้ว รับรองว่าจะโดนเหยียบขย้ำร่างจนเละเท่านั้นเอง


ที่มา :  http://hilight.kapook.com/view/16650

กลุ่มเมฆรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนมีลักษณะต่างๆและเกิดแสงกระทบกัน เหมือนแมงกะพรุน ม้วนเป็นคลื่นขนาดใหญ่ จานยูเอฟโอ และอื่นๆ


อันดับ 10 Altocumulus Castelanus


เมฆกลุ่มนี้คือจะเป็นพุ่มๆเหมือนแมงกะพรุน เกิดจากลมที่ชื้นๆจากกระแสน้ำอุ่นกัลฟ์สตรีม มาเจอกับอากาศแห้งๆ

อันดับ 9 Nacreous


เมฆ นี้เรียกได้ว่าเป็นไข่มุกแห่งเมฆาเลยทีเดียว เพราะสีนวลตาและหลากสี ทำให้เพลินตาดี ซึ่งจะพบได้ที่แถบใกล้ๆขั้วโลกเช่นสแกนดิเนเวียตอนช่วงหน้าหนาว เวลาเย็นๆที่แสงอาทิตย์ส่องผ่าน เป็นเวลา 2 ชั่วโมงเท่านั้นที่เราจะเห็นแบบนี้

อันดับ 8 Mammatus Clouds


เมฆ ลักษณะแบบเป็นกระเปาะยื่นลงมา คนทั่วไปมักจะนึกว่าเดี๋ยวจะมีพายุเข้ามารึเปล่าหว่า จริงๆแล้ว เมฆนีไม่ใช่สัญญาณเตือนอันตรายแต่อย่างใด แต่มักเกิดขึ้นหลังจากที่พายุทอร์นาโดพ้นผ่านไปแล้วต่างหากล่ะ

อันดับ 7 Mushroom Clouds


เมฆแบบนี้คงไม่ใช่อะไรที่จะดีเท่าไหร่ เพราะมันเกิดจากการระเบิดอย่างแรง ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเชื่อมโยงกับระเบิดนิวเคลียร์

อันดับ 6 Noctilucent Clouds


เมฆ ตามชื่อ คือ เกิดขึ้นในช่วงกลางคืนแต่เรืองแสง ซึ่งเกิดที่บริเวณแถวๆใกล้ๆขั้วโลกโดยแสงอาทิตย์จากอีกฟากส่องมาปะทะกับเมฆ จึงเห็นเหมือนกับเรืองแสงได้

อันดับ 5 Cirrus Kelvin-Helmholtz


เมฆม้วนเป็นเกลียว โอกาสเกิดขึ้นยากมาก และเกิดขึ้นเป็นเวลา 2-3 นาที แล้วจากนั้นก็เละ เรียกว่า เป็นความบังเอิ๊ญบังเอิญจริงๆ

อันดับ 4 Lenticular Clouds


เกิดจากหลยองค์ประกอบ ทั้งลมและความชื้น ทำให้รวมกลุ่มกลายเป็นเลนส์ได้(แต่บางครั้งก็เหมือน UFO นะ หรือว่า.....! ?????)

อันดับ 3 Roll Clouds

เป็น เมฆฝนถึงขั้นที่จะเกิดพายุ แต่เป็นเมฆก้อนใหญ่บวกกับความดันอากาศ ความร้อนและเย็น ทำให้เกิดการเคลื่อนที่ของเมฆเป็นการม้วน เลยดูเหมือนคลื่นขนาดใหญ่

อันดับ 2 Shelf Clouds


ลักษณะ คล้ายๆกับอันดับ 2 แต่อันนี้ไม่ได้เป็นการม้วน แต่เป็นชั้นๆเหมือนที่กำบัง(บ้างก็ว่าเหมือนลิ้นชัก)และจะมาเป็นแนวตั้ง นอกจากนี้มันยังคล้อยตัวต่ำจนน่ากลัว และเขาบอกว่าถ้าเข้าไปอยู่ในนั้นนี่ อย่างกับในหนังเลยครับ พยาุกระหน่ำรวมทั้งอุณหภูมิที่ร้อนมากๆและการหมุนของพายุที่น่าสะพรึงกลัว

อันดับ 1 Stratocumulus Clouds


เมฆ แบบนี้เกิดขึ้นได้ยาก ลักษณะมันก็เหมือนกับเอาดินน้ำมันมานวดๆๆๆๆๆๆ เลยออกมาเป็นเส้นยาวๆ และเผอิญว่าเส้นยาวๆจะแบ่งเป็นช่วงๆซะด้วย ทฤษฎีว่าด้วยเรื่องของการเกาะกลุ่ม

 
ที่มา : http://www.vcharkarn.com/varticle/39121

อันดับ 10 หนู


เป็นอาหารสุดฮิต ของอเมริกาใต้ โดยเฉพาะประเทศยากจนอย่าง เปรู ปารากวัย หนูคือแหล่งโปรตีนสำคัญที่เดียว และเป็นเมนูหลักๆ ของร้านอาหาร และภัตตาคารใหญ่ๆ โดยชาวปารากวัยต่างลิ้มลองเชื่อว่าการกินหนูจะช่วยให ้ผิวกระชับมากขึ้น ผิวเนียนอีกต่างหาก ซึ่งหนูตัวใหญ่เขาจะมาย่างเป็นหนังกรอบหอมเสริฟแบบแฮมเบอร์เกอร์เลยที่เดียว ส่วนหนูทารกตัวสีชมพูแดงๆ ก็จะหย่อนหนูเป็นๆ ลงท้องทันทีตามด้วยนมสดสักแก้ว หรือไม่ก็จะอร่อยแบบศิวิไลหน่อยก็จับลูกหนูใส่ในขนมปังหรือกล้วยหอมแล้วยัด ใส่ปากเคี้ยวกร้วมๆ ร้องจิ๊ดๆ เป็นอันอร่อยเหาะ

อันดับ 9 สตูค้างคาว


อาหารขึ้นชื่อของเวียดนาม ประเทศที่กำลังเจริญกว่าไทยน่ะแหละ ขายดิบขายดี แถมยังหรูและหายากมาก โดยเฉพาะเมืองหลวงไซ่งอนน่ะมันอยู่ในระดับภัตตาคารหรูเท่านั้น ซึ่งชาวเวียดนามเชื่อกันว่าเนื้อค้างคาวคือราชันย์แห่่งเนื้อทั้งปวง การกิน น่ะหรือ ทำได้หลายวิธี เช่นทำซุป หรือนำมาสับเป็นชิ้นๆ เคี้ยวเป็นสตู หรือไม่ก็ใช้มีดคมๆ ตัดหัวค้าวคาวทันที จากนั้นก็รีดเลือดที่หยดจากร่างไร้หัวใส่แก้วเปล่าแล้้วดื่มกินสดๆ ทันที

อันดับ 8 สตูเนื้อหมาดำ


พูดถึงเอเชียก็ต้องเนื้อหมา กินกันทั้งเกาหลี เวียดนาม ไทย แต่ถ้าจะหาประเทศที่กินเนื้อหมาได้มีลีลาเด็ดอร่อยก็ประเทศอินโดนีเซียเพื่อนบ้านของเรานั้นเองเพราะพี่เพื่อนบ้านแกทำหลายเมนูมาก โดยเฉพาะเนื้อหมาดำว่ากันว่ามีรสอร่อยกว่าเนื้ออื่นๆ ทั้งปวง แถมนุ่มกว่าเนื้อหมาสีอื่นๆ ทำให้เวลานี้หมาดำชักจะหายจากถนนและบ้านเรือนของอินโดนีเซียไปแล้ว

อันดับ 7 หัวแกะสด-ต้ม


จากหลายประเทศ รอบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมนูที่คุ้นเคยอย่างยิ่งของชาวเมืองแถบนั้นว่ากันว่าหัวแกะถือว่าเป็น อาหารสุดยอดของแกะ เมื่อถึงเทศกาลปีใหม่ของชาวยิวที่เรียกว่า รอช อาแชน่า หัวแกะถูกนำมาเสิร์ฟพร้อมกับความหมายที่ว่า ใครก็ตามได้กินหัวแกะนั้นจะได้รับโชคดีในวันปีใหม่ที่จะมาถึง แต่ถ้ากินลูกนัยตาของลูกแกะเข้าไปย่อมโชคดีมากขึ้นไปอีก ส่วนรสชาติหลายๆ คนให้ความเห็นว่า “เค็มเหลือเกินพับผ่า”

อันดับ 6 ขนมพายครีบแมวน้ำ


ชาวนิวฟาวด์แลนด์กินพายที่มาจากครีบแมวน้ำนั้นถือว่า เป็นสิ่งวิเศษ และต้องกินให้ได้ถ้ามีโอกาส และด้วยเหตุนี้ส่งผลให้แต่ละปีจะมีแมวน้ำมากมายมหาศาลต่างถูกจับตัวขึ้นมา ตัดครีบทั้งสองข้าง จากนั้นก็ถีบลงเรือและปล่อยให้จมน้ำตายในทะเลไปอย่างน่าสมเพชที่สุด ในภัตตาคารใหญ่ๆ หลายต่อหลายแห่งก็มีเมนูชนิดนี้เปิดขายทั้งแบบปกปิดและเปิดเผย เพราะนานาประเทศยังต่อต้านเมนูนี้อยู่

อันดับ 5 สมองลิงแสนสนุก


วิธีการทำและการกินก็ง่าย ก็เอาลิงพันธุ์อะไรก็ได้แล้วแต่มีให้ มาหนีบกับโต๊ะโดยมีส่วนหัวด้านบนโผล่ออกมา จากนั้นพ่อครัวก็ใช้วิชาบาร์เบอร์โกนขนส่วนบนของลิงออกจนเกลี้ยงเกลาจากนั้นก็ใช้สิ่วและค้อนเฉาะกะโหลกของลิงออกคล้ายกับกะเทาะ มะพร้าวอ่อน และแล้วลูกค้าก็จะรีบตักกินสมองลิงอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้นานเกินไปสมองลิงจะยุบและลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว แต่บางครั้งเขาก็เสิร์ฟสมองลิงแบบแช่แข็งไว้ด้วย เพื่อลดภาวะสมองลิงหดตัวอย่างรวดเร็วอีกทางหนึ่ง

อันดับ 4 ปลาสองแผ่นดิน


เมนูนี้สามารถหากินได้จากประเทศจีนหรือไทยก็ได้ครับ วิธีการทำต้องใช้ฝีมือหน่อย เริ่มจากนำปลาเก๋าขนาด 2 ก.ก. มาขอดเกล็ดออกให้หมดแล้วนำมาล้าง ก่อนจะใช้ผ้าเย็นที่แช่เย็นจัดพันส่วนหัวจนถึงพุงปลา แล้วก็ใช้มีดบั้งตัวปลาตั้งแต่ส่วนหางขึ้นมาจนถึงกลางลำตัว ระหว่างนั้นตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชลงไปรอให้เดือดเต็มที่ แล้วก็นำหางปลาช่วงที่บั้งจุ่มลงไปทอดครึ่งตัว

ซึ่งเป็นภาพที่หวาดเสียวมาก เพราะปลาจะดิ้นตลอดเวลาด้วยความเจ็บปวด ต้องใช้คีมคีบที่หัวปลาเอาไว้ รอจนเนื้อปลาสุกเป็นสีเหลือง ก็ยกขึ้นนำมาวางบนจานแต่งด้วยเครื่อง ยกเสิร์ฟโดยครึ่งบนปลายังเป็นๆ อยู่ อ้าปากพะงาบๆ ครีบยังกระดิกได้ แต่ครึ่งล่างทอดจนสุก กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและซอสเปรี้ยว โดยคนจีนเชื่อว่าการทานปลาสองแผ่นดินเป็นยาชูกำลังให้กินมากๆ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงน่ะจะบอกให้ เชื่อไหม

อันดับ 3 อุ้งตีนหมี



เป็นอาหารที่นักเปิบมหาภัยชอบมากและเป็นเมนูสุดโหด เพราะการตัดอุ้งตีนหมีนั้น ไม่สามารถตัดขณะที่หมียังมีชีวิตได้ การฆ่าหมีเองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหนังหมีจะหนามาก ยากต่อการฆ่า ดังนั้น ผู้ฆ่าจึงจับหมีถ่วงน้ำทั้งเป็นหมีความส่งเสียงร้องดังโหยหวนเมื่อถูกตะขอเหล็กเกี่ยวร่างออกจากกรงขัง ไม่กี่นาทีต่อมามันก็ตกอยู่ในความมืดมิด เมื่อถูกกระสอบสวมคลุมร่าง นักท่องเที่ยวจะยืนมองวินาทีสุดท้ายของหมีควายโชคร้ายในถังเก็บน้ำใบเขื่อง ด้วยสายตาเฉยชา หลังจากร่างใหญ่ดิ้นพราดๆ อยู่เพียงครู่ ทุกอย่างก็สงบลง เพชฌฆาตรีบลงมีดเลือดสดๆ ไหลทะลักจากคอหมีลงสู่ถ้วยขนาดย่อม เลือดในถ้วยถูกผสมด้วยเหล้าขาวแล้วเวียนกันดื่ม หลังจากยืนดู การชำแหละอุ้งตีนหมีเสร็จสิ้น นักท่องเที่ยวจึงกลับไปที่โต๊ะ นั่งรออาหารจานเด็ดที่เชื่อว่าจะช่วยทำให้คนแข็งแกร่งในกามกรีฑา ดุจเดียวกับความแข็งแรงของอุ้งตีนหมี

อันดับ 2 ซุปตัวอ่อนมนุษย์


เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงน่ะครับ เมนูนี้เป็นอาหารเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้นน่ะครับ มันมีขายอยู่ที่เฉินเซ่น ประเทศจีนการกินตัวอ่อนของมนุษย์ หรือทารกที่เพิ่งคลอดนั้นเป็นความเชื่ออย่างลับๆ ว่าจะช่วยเพิ่มคุณค่าอาหารหลายอย่างในหมู่ชาวจีน นั้นก็คือทำให้ผิวสวยเนียน ร่างกายแข็งแรงต้านทานโรค และที่เชื่อกันมากก็คือช่วยบำรุงไตได้ดีสำหรับวิธีการทำก็ไม่ยากเท่าไหร่ แค่เอาเด็กทารกแรกคลอด หรือเด็กที่ตายจากการทำคลอด
ยิ่งเป็นเด็กผู้ชายยิ่งดี(เขาบอกว่ามีคุณค่าทางอาหารสูง) มาสับ มาเคี่ยวเป็นซุปและใส่เนื้อหมูลงไปเป็นอันเสร็จ รสชาติเหมือนซุปสมุนไพรอย่างไรก็ตามการนำเด็กทารกมาทำตุ๋นยาจีนเป็นอาหารที่ ประเทศจีนนั้น ถือว่าผิดกฎหมาย ทำให้เมนูนี้ ต้องมีการสั่งเป็นพิเศษ หรือไม่ก็แอบทำให้กับพวกที่อยากรับประทานอาหารแบบพิสดารแบบนี้

อันดับ 1 เนื้อมนุษย์



ที่ปาปัว นิว กินี และก็มาถึงอันดับหนึ่งของเรา ที่ปาปัว นิว กินี เวลามีใครตายไม่ว่าจะเป็นญาติของตน หรือคนต่างเผ่าที่ตกอยู่ในครอบครองของตน เขาจะไม่นำศพไปฝังหรือเผา แต่จะนำศพไปไว้บนตะแกรงที่ยกพื้นสูงขนาดท่วมหัว ปล่อยให้ศพอยู่ในสภาพนั้นจนขึ้นอืด เกิดน้ำเหลืองเยิ้มไปทั้งตัวดีแล้ว ก็จะเข้าป่าหาใบไม้ที่เป็นเครื่องเทศเอามาพับเป็นกระทงเล็กๆ (คงอย่างที่เตรียมใบชะพลูจะกินกับเมี่ยง) เหมาะที่จะมีขนาดกินคำเดียว แล้วก็เชิญพรรคพวกเพื่อนฝูงให้มารวมกันอยู่ใต้ตะแกรง ศพนั้น นำเอาไม้ปลายแหลมแทงศพให้เป็นรู ให้น้ำเหลืองไหลย้อยออกมา นำกระทงใบไม้ที่เตรียมไว้ รองรับน้ำเหลืองนั้น
พอได้มากดีแล้วก็กินทั้งน้ำเหลืองและใบไม้กินกันจนไม่มีน้ำเหลืองแล้วก็นำศพ นี้ไปต้มซุปกับผักต่างๆ กินกันต่อไปแต่ถ้าจะกินมนุษย์ที่สะใจที่สุดต้องยกให้ชนเผ่า โดโบดูรัส นิยมจับเหยื่อที่ล่ามาได้มากินแบบเป็นๆ นั้นคือต้องทรมานเหยื่อจนใกล้จะตายแต่ไม่ให้ถึงตาย จากนั้นก็เจาะกะโหลกให้เป็นรูลึกๆ เสียก่อน แล้วค่อยสอดไม้เล็กๆ ที่มีปลายแบบชอนเข้าไปตักสมองออกมากิน เหยื่อก็ดิ้นไปดิ้นมา ดูแล้วก็ … เฮือก.. !?

ที่มา : http://www.hilunch.com/top-10-scary-food

;;